ความช่วยเหลือของ PlayStation

อุปกรณ์เสริม

คุณต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด

เลือกหมวดหมู่จากด้านล่าง:

กลับไปที่หมวดหมู่
ชุดหูฟังไร้สาย PlayStation
ย้อนกลับ

ชุดหูฟังไร้สาย PlayStation

ส่วนประกอบชุดหูฟังไร้สาย PULSE Elite

A) ส่วนคาดศีรษะ

B) แถบคาดศีรษะ

C) ไมโครโฟนพับได้

D) ไฟแสดงสถานะการปิดเสียง/ปุ่มปิดเสียง

A) ขั้วที่ชาร์จไฟ

B) ปุ่มนูน 

C) ปุ่มความดังเสียง 

D) พอร์ต USB Type-C 

E) ช่องต่อเสียงอินพุต 

F) ปุ่ม PlayStation Link™

G) ไฟแสดงสถานะ

A) แผ่นรองยึด 

B) ก้านยึด

C) ที่แขวนสำหรับชาร์จ

D) ตัวเชื่อมต่อที่ชาร์จไฟ

E) แท่นชาร์จ 

F) พอร์ต USB Type-C

A) ตัวเชื่อมต่อ USB Type-A

B) ปุ่ม PlayStation Link

C) ไฟแสดงสถานะ

เชื่อมต่อ

เชื่อมต่อชุดหูฟังไร้สาย PULSE Elite™ กับคอนโซล PS5® ของคุณโดยใช้อะแดปเตอร์ USB PlayStation Link™ ที่ให้มา อะแดปเตอร์ USB ที่ให้มาจะจับคู่กับชุดหูฟังของคุณอยู่แล้วตั้งแต่แกะออกมาจากกล่อง 

  1. อย่าลืมตรวจสอบว่าคอนโซล PS5 เปิดอยู่ 
  2. เสียบอะแดปเตอร์ USB เข้ากับพอร์ต USB Type-A พอร์ตใดพอร์ตหนึ่งบนคอนโซลของคุณ 
  3. กดปุ่ม PlayStation Link™ บนชุดหูฟังเพื่อเปิด
    ไฟแสดงสถานะบนชุดหูฟังจะกะพริบช้าๆ เป็นสีน้ำเงินขณะค้นหาการเชื่อมต่อ
    เมื่อเชื่อมต่อแล้ว ไฟแสดงสถานะบนชุดหูฟังจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินค้าง และไฟแสดงสถานะบนอะแดปเตอร์จะเปลี่ยนเป็นสีขาวค้าง
  4. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อกำหนดค่าชุดหูฟังของคุณ

เชื่อมต่อชุดหูฟังไร้สาย PULSE Elite ของคุณกับ PC (Windows) หรือ Mac (macOS) ที่เข้ากันได้ซึ่งมีเอาต์พุตเสียง USB โดยใช้อะแดปเตอร์ USB PlayStation Link™ ที่ให้มา อะแดปเตอร์ USB ที่ให้มาจะจับคู่กับชุดหูฟังของคุณอยู่แล้วตั้งแต่แกะออกมาจากกล่อง 

  1. ตรวจสอบว่า PC หรือ Mac ของคุณเปิดอยู่ 
  2. เสียบอะแดปเตอร์ USB เข้ากับพอร์ต USB Type-A บน PC/Mac ของคุณ 
  3. กดปุ่ม PlayStation Link™ บนชุดหูฟังเพื่อเปิด
    ไฟแสดงสถานะบนชุดหูฟังจะกะพริบเป็นสีน้ำเงินขณะค้นหาการเชื่อมต่อ 
    เมื่อเชื่อมต่อแล้ว ไฟแสดงสถานะบนชุดหูฟังจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินค้าง และไฟแสดงสถานะบนอะแดปเตอร์จะเปลี่ยนเป็นสีขาวค้าง

เชื่อมต่อชุดหูฟังไร้สาย PULSE Elite กับอุปกรณ์มือถือที่เข้ากันได้ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth

คุณต้องจับคู่ชุดหูฟังกับอุปกรณ์มือถือก่อนเพื่อตั้งค่าการเชื่อมต่อ Bluetooth

  1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้สลับ Bluetooth เป็น “เปิด” จากการตั้งค่า Bluetooth ของอุปกรณ์มือถือของคุณ 
  2. กดปุ่ม PS Link บนชุดหูฟังเพื่อเปิด
    ชุดหูฟังของคุณจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อล่าสุดโดยอัตโนมัติ
  3. กดปุ่ม PS Link บนชุดหูฟังของคุณค้างไว้ และปล่อยเมื่อไฟแสดงสถานะบนชุดหูฟังของคุณกะพริบเป็นสีน้ำเงินอย่างรวดเร็ว (ประมาณ 8 วินาที)
    ชุดหูฟังของคุณอยู่ในโหมดจับคู่เมื่อไฟแสดงสถานะกะพริบเป็นสีน้ำเงินอย่างรวดเร็ว
  4. จากการตั้งค่า Bluetooth บนอุปกรณ์มือถือของคุณ ให้เลือก “PULSE Elite” จากรายการอุปกรณ์ Bluetooth
    เมื่อจับคู่และเชื่อมต่อแล้ว ไฟแสดงสถานะบนชุดหูฟังจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินค้าง

ใช้ปุ่ม PS Link บนชุดหูฟังไร้สาย PULSE Elite สำหรับฟังก์ชันต่างๆ ที่เปิดใช้งานได้ด้วยการกดสั้นๆ และกดค้างไว้

กดแล้วปล่อยปุ่มอย่างรวดเร็ว

  • เปิดชุดหูฟังของคุณเพื่อค้นหาและเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อล่าสุดของคุณ (PS Link หรืออุปกรณ์ Bluetooth)
  • ยกเลิกการค้นหาการเชื่อมต่อเดิมที่มีอยู่หรือการจับคู่ใหม่ ชุดหูฟังของคุณจะกลับไปเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อล่าสุด

กดอย่างรวดเร็วสามครั้ง

  • แสดงการควบคุมเสียงจากศูนย์ควบคุม

กดปุ่มค้างไว้ประมาณ 2 วินาที แล้วปล่อย

  • ยุติการใช้งานการเชื่อมต่อปัจจุบันและเริ่มการเชื่อมต่อกับ PS Link หรืออุปกรณ์ Bluetooth ที่จับคู่ไว้ก่อนหน้านี้

กดปุ่มค้างไว้ประมาณ 4 วินาที แล้วปล่อย

  • ปิดชุดหูฟังของคุณ

กดปุ่มค้างไว้ประมาณ 8 วินาที แล้วปล่อย

  • จับคู่กับ PS Link หรืออุปกรณ์ Bluetooth ใหม่

กดปุ่มค้างไว้ 8 วินาที ปล่อยปุ่ม จากนั้นกดปุ่มค้างไว้ 8 วินาทีอีกครั้ง

  • ล้างการเชื่อมต่อที่จับคู่ไว้ทั้งหมดออกจากชุดหูฟังของคุณ โปรดระมัดระวัง เพราะการดำเนินการนี้จะลบ PS Link และการจับคู่ Bluetooth และการตั้งค่าเสียงทั้งหมด

กดปุ่มค้างไว้อย่างน้อย 10 วินาที แล้วปล่อย

  • รีเซ็ตชุดหูฟังของคุณ (ตัวเลือกนี้ไม่ได้ลบการจับคู่หรือการตั้งค่าใดๆ)

เมื่อคุณใช้ชุดหูฟังไร้สาย PULSE Elite™ กับ PS Portal เป็นครั้งแรก คุณจะต้องทำการจับคู่ชุดหูฟัง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ตั้งค่าเริ่มต้นของ PS Portal ของคุณเสร็จเรียบร้อยแล้วก่อนทำการจับคู่ 

  1. เปิด PS Portal ของคุณ
  2. กดปุ่ม PlayStation Link™ บนชุดหูฟังของคุณค้างไว้ และปล่อยเมื่อไฟแสดงสถานะบนชุดหูฟังของคุณกะพริบเป็นสีน้ำเงินอย่างรวดเร็ว (ประมาณ 8 วินาที)
    ชุดหูฟังของคุณอยู่ในโหมดจับคู่เมื่อไฟแสดงสถานะกะพริบเป็นสีน้ำเงินอย่างรวดเร็ว
  3. กดปุ่ม PS Link บน PS Portal ของคุณ
    เมื่อจับคู่และเชื่อมต่อแล้ว ไฟแสดงสถานะบนชุดหูฟังของคุณจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินค้าง และ PS Portal ของคุณจะแสดงสถานะเชื่อมต่อแล้ว
  1. ชาร์จชุดหูฟังด้วยสาย USB ที่มาพร้อมกับชุดหูฟัง
  2. เสียบอะแดปเตอร์ USB เข้ากับคอนโซลของคุณ
  3. เปิดชุดหูฟังและรอให้ไฟสีน้ำเงินหยุดกะพริบและเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินค้างไว้ แสงสีน้ำเงินค้างไว้บ่งบอกว่าจับคู่สำเร็จ

โปรดไปที่คู่มือผู้ใช้ออนไลน์เพื่อดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าคอนโซล PS4™ สำหรับ อุปกรณ์เสียง

ชาร์จ

เมื่อคุณเปิดหรือปิดชุดหูฟังไร้สาย PULSE Elite ไฟแสดงสถานะจะกะพริบเพื่อแสดงระดับแบตเตอรี่ หากไฟแสดงสถานะกะพริบเป็นสีแดง แสดงว่าแบตเตอรี่ของชุดหูฟังมีระดับต่ำหรือว่างเปล่า 
คุณสามารถชาร์จชุดหูฟังได้จากพอร์ตชาร์จ USB Type-A ที่เข้ากันได้โดยใช้สาย USB ที่ให้มา 

  1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ของคุณที่มีพอร์ต USB-A เปิดอยู่ เช่น คอนโซล PS5 หรือ PC/Mac® ของคุณ 
  2. เชื่อมต่อชุดหูฟังเข้ากับพอร์ต USB-A โดยใช้สาย USB ที่ให้มา
    ไฟแสดงสถานะบนชุดหูฟังจะกะพริบช้าๆ เป็นสีส้มขณะชาร์จ 
  3. รอให้ชุดหูฟังชาร์จจนเสร็จ
    คุณสามารถใช้ชุดหูฟังได้ในขณะที่ชาร์จอยู่ ตราบใดที่ชุดหูฟังยังคงเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ USB 
    ไฟแสดงสถานะจะดับลงเมื่อการชาร์จเสร็จสมบูรณ์

ไฟแสดงสถานะจะกะพริบเพื่อระบุระดับแบตเตอรี่ของชุดหูฟังไร้สาย PULSE Elite 

คุณต้องติดตั้งที่แขวนสำหรับชาร์จ PULSE Elite บนพื้นผิวแนวตั้งก่อนที่จะใช้เพื่อชาร์จชุดหูฟังไร้สาย PULSE Elite™

แก้ไขปัญหา

ใช้ปุ่มความดังเสียงที่ด้านขวาของชุดหูฟังของคุณเพื่อเพิ่มหรือลดความดังเสียงของ PlayStation Link™

คุณสามารถกดปุ่มปิดเสียงบนไมโครโฟนของคุณเพื่อปิดเสียงหรือเปิดเสียง 

  • เมื่อไฟแสดงสถานะการปิดเสียงสว่างขึ้น หมายความว่าไมค์ปิดเสียงอยู่ ผู้เล่นคนอื่นจะไม่ได้ยินคุณ 
  • เมื่อไฟแสดงสถานะการปิดเสียงดับลง หมายความว่าไมค์เปิดอยู่ ผู้เล่นคนอื่นสามารถได้ยินเสียงคุณ 

หากคุณประสบปัญหากับชุดหูฟังไร้สาย PULSE Elite ของคุณ ให้ลองรีเซ็ตชุดหูฟัง การรีเซ็ตจะไม่มีผลกับ PlayStation Link™ หรือการจับคู่ Bluetooth ใดๆ หรือการตั้งค่าเสียง

  1. กดปุ่ม PlayStation Link™ บนชุดหูฟังของคุณค้างไว้อย่างน้อย 10 วินาที
    เมื่อคุณกดปุ่มค้างไว้ ชุดหูฟังของคุณจะปิด
  2. กดปุ่ม PS Link บนชุดหูฟังเพื่อเปิดอีกครั้ง
  3. ตรวจสอบว่าปัญหาที่พบกับชุดหูฟังของคุณได้รับการแก้ไขแล้วหรือไม่
  1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเสียบอะแดปเตอร์ไร้สายเข้ากับคอนโซลของคุณอย่างแน่นกระชับแล้ว
  2. ปิดชุดหูฟังของคุณโดยกดปุ่มปิดที่อยู่ใกล้กับเอียร์คัพ จากนั้นเปิดใหม่อีกครั้ง ไฟชุดหูฟังจะกะพริบเมื่อจับคู่

ชุดหูฟังของคุณอาจอยู่นอกระยะสัญญาณจากคอนโซลของคุณหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นอาจทำให้เกิดคลื่นรบกวนเราเตอร์ไร้สายของคุณ

  1. ลองปิดเราเตอร์ไร้สายของคุณแล้วเปิดใหม่อีกครั้ง
  2. หากยังพบปัญหาอยู่ ให้ลอง รีเซ็ตชุดหูฟัง

การอัพเดทสำหรับชุดหูฟังไร้สาย PULSE Elite และอะแดปเตอร์ USB จะเพิ่มเข้ามาเมื่อคุณอัพเดทซอฟต์แวร์ระบบคอนโซล PS5 ตรวจสอบว่าคุณอัพเดทชุดหูฟังและอะแดปเตอร์เป็นเวอร์ชันล่าสุดแล้ว เมื่อมีการอัพเดทใหม่ให้อัพเดทได้ ให้ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ

คุณยังสามารถตรวจสอบและอัพเดทซอฟต์แวร์อุปกรณ์ได้ด้วยตนเอง 

กลับไปที่หมวดหมู่
หูฟังเอียร์บัดไร้สาย PULSE Explore
ย้อนกลับ

หูฟังเอียร์บัดไร้สาย PULSE Explore

ชื่อส่วนประกอบ

A) จุดสัมผัส

B) ปุ่มความดังเสียง 

C) ขั้วที่ชาร์จไฟ

D) ไมโครโฟน

E) ปุ่ม PlayStation Link™

F) จุกเอียร์บัด

G) ปลอกหุ้ม

A) ฝาปิดเคสสำหรับชาร์จ

B) ตัวเชื่อมต่อที่ชาร์จไฟ

C) ช่องวางเอียร์บัด

D) ปุ่ม PlayStation Link

E) พอร์ต USB Type-C

F) ไฟแสดงสถานะ

A) ตัวเชื่อมต่อ USB Type-A

B) ปุ่ม PlayStation Link

C) ไฟแสดงสถานะ

สวม

ตรวจสอบว่าคุณได้ใส่และปรับตำแหน่งหูฟังเอียร์บัดไร้สาย PULSE Explore ให้เข้ากับช่องหูของคุณตามที่แสดงให้เห็นด้านล่าง

เลือกขนาดจุกเอียร์บัดที่คุณใส่สบายและป้องกันเสียงภายนอกได้ดี เลือกขนาดที่คุณชอบจากสี่ขนาดที่มีมาให้ภายในกล่อง มีจุกติดกับเอียร์บัดมาให้แล้วหนึ่งคู่

หากต้องการตรวจสอบว่าคุณกำลังใช้ขนาดจุกเอียร์บัดที่เหมาะสมกับคุณแล้วหรือไม่ ให้ลองทำดังนี้: 

  • ใส่เอียร์บัดเข้ากับหูของคุณ แล้วลองพูดด้วยเสียงที่ดังหรือลองเดินไปใกล้ๆ แหล่งกำเนิดเสียงที่มีเสียงดัง เสียงรบกวนจากภายนอกควรฟังดูอู้อี้เล็กน้อย เมื่อคุณเล่นเสียง ความดังเสียงของเอียร์บัดทั้งสองข้างควรดังเท่ากัน 
  • ฟังเพลงที่ความดังเสียงปานกลาง เสียงจากเอียร์บัดทั้งสองข้างควรมีเสียงที่เหมือนกัน 
  • ตรวจสอบว่ามีแรงต้านเกิดขึ้นเล็กน้อยเมื่อถอดเอียร์บัดออกจากหูของคุณหรือไม่ หูฟังเอียร์บัดไม่ควรหลุดออกมาโดยไม่ตั้งใจขณะใช้ 

เชื่อมต่อ

เชื่อมต่อเอียร์บัดไร้สาย PULSE Explore™ กับคอนโซล PS5® ของคุณโดยใช้อะแดปเตอร์ USB PlayStation Link™ ที่ให้มา อะแดปเตอร์ USB ที่ให้มาจะจับคู่กับเอียร์บัดของคุณอยู่แล้วตั้งแต่แกะออกมาจากกล่อง

  1. อย่าลืมตรวจสอบว่าคอนโซล PS5 เปิดอยู่
  2. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเอียร์บัดทั้งสองข้างของคุณเสียบอยู่ในเคสสำหรับชาร์จ
  3. เสียบอะแดปเตอร์ USB เข้ากับพอร์ต USB Type-A พอร์ตใดพอร์ตหนึ่งบนคอนโซลของคุณ
  4. นำเอียร์บัดทั้งสองข้างออกจากเคสเพื่อเชื่อมต่อกับคอนโซลของคุณ
    เมื่อเชื่อมต่อแล้ว ไฟแสดงสถานะบนอะแดปเตอร์จะเปลี่ยนเป็นสีขาวไม่กะพริบ

เชื่อมต่อเอียร์บัดไร้สาย PULSE Explore ของคุณกับ PC (Windows) หรือ Mac (macOS) ที่รองรับซึ่งมีเอาต์พุตเสียง USB โดยใช้อะแดปเตอร์ USB PlayStation Link™ ที่ให้มา อะแดปเตอร์ USB ที่ให้มาจะจับคู่กับเอียร์บัดของคุณอยู่แล้วตั้งแต่แกะออกมาจากกล่อง

  1. ตรวจสอบว่า PC หรือ Mac ของคุณเปิดอยู่
  2. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเอียร์บัดทั้งสองข้างของคุณเสียบอยู่ในเคสสำหรับชาร์จ
  3. เสียบอะแดปเตอร์ USB เข้ากับพอร์ต USB Type-A บน PC/Mac ของคุณ
  4. นำเอียร์บัดทั้งสองข้างออกจากเคสเพื่อเชื่อมต่อกับ PC/Mac ของคุณ
    เมื่อเชื่อมต่อแล้ว ไฟแสดงสถานะบนอะแดปเตอร์จะเปลี่ยนเป็นสีขาวไม่กะพริบ

เชื่อมต่อเอียร์บัดไร้สาย PULSE Explore กับอุปกรณ์มือถือที่รองรับที่รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth

คุณต้องจับคู่เอียร์บัดกับอุปกรณ์มือถือเพื่อตั้งค่าการเชื่อมต่อ Bluetooth ก่อน

  1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้สลับ Bluetooth เป็น “เปิด” จากการตั้งค่า Bluetooth ของอุปกรณ์มือถือของคุณ
  2. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเอียร์บัดทั้งสองข้างของคุณอยู่ในเคสสำหรับชาร์จ
  3. กดปุ่ม PS Link บนเคสค้างไว้ และปล่อยเมื่อไฟแสดงสถานะบนเคสกะพริบเป็นสีน้ำเงินอย่างรวดเร็ว (ประมาณ 8 วินาที)
    เอียร์บัดของคุณอยู่ในโหมดจับคู่เมื่อไฟแสดงสถานะกะพริบเป็นสีน้ำเงินอย่างรวดเร็ว
  4. ไปที่การตั้งค่า Bluetooth บนอุปกรณ์มือถือของคุณ จากนั้นเลือก “PULSE Explore” จากรายการอุปกรณ์ Bluetooth
    เมื่อจับคู่และเชื่อมต่อแล้ว ไฟแสดงสถานะบนเคสจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินค้าง

เมื่อคุณใช้เอียร์บัดกับ PS Portal เป็นครั้งแรก คุณจะต้องทำการจับคู่เอียร์บัด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ตั้งค่าเริ่มต้นของ PS Portal ของคุณเสร็จเรียบร้อยแล้วก่อนทำการจับคู่

  1. เปิด PS Portal ของคุณ
  2. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเอียร์บัดทั้งสองข้างของคุณอยู่ในเคสสำหรับชาร์จ
  3. กดปุ่ม PlayStation Link™ บนเคสค้างไว้ และปล่อยเมื่อไฟแสดงสถานะบนเคสกะพริบเป็นสีน้ำเงินอย่างรวดเร็ว (ประมาณ 8 วินาที)
    เอียร์บัดของคุณอยู่ในโหมดจับคู่เมื่อไฟแสดงสถานะกะพริบเป็นสีน้ำเงินอย่างรวดเร็ว
  4. กดปุ่ม PS Link บน PS Portal ของคุณ
    เมื่อจับคู่และเชื่อมต่อแล้ว ไฟแสดงสถานะบนเคสจะเปลี่ยนเป็นไฟสีน้ำเงินค้าง และ PS Portal ของคุณจะแสดงสถานะเชื่อมต่อแล้ว

ถอดเอียร์บัดของคุณหนึ่งหรือทั้งสองข้างออกจากเคสเพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชันต่อไปนี้ หากคุณใช้เอียร์บัดทั้งสองข้าง คุณต้องกดปุ่ม PS Link เพียงปุ่มเดียวบนเอียร์บัดข้างใดข้างหนึ่งของคุณ

กดแล้วปล่อยอย่างรวดเร็ว 

  • เปิดเอียร์บัดของคุณเพื่อค้นหาและเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อล่าสุดของคุณ (PS Link หรืออุปกรณ์ Bluetooth)
  • ยกเลิกการค้นหาการเชื่อมต่อเดิมที่มีอยู่หรือการจับคู่ใหม่ เอียร์บัดของคุณจะเชื่อมต่อกลับไปยังอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อล่าสุด

กดปุ่มค้างไว้ประมาณ 2 วินาที แล้วปล่อย 

  • ปิดใช้งานการเชื่อมต่อปัจจุบันและเริ่มการเชื่อมต่อกับ PS Link หรืออุปกรณ์ Bluetooth ที่จับคู่ไว้ก่อนหน้านี้

กดปุ่มค้างไว้อย่างน้อย 12 วินาทีแล้วปล่อย

  • รีเซ็ตเอียร์บัดของคุณ (การดำเนินการนี้จะไม่ลบการเชื่อมต่อใดๆ)

ชาร์จ

  1. ใส่เอียร์บัดเข้าไปในเคส
    ไฟแสดงสถานะบนเคสจะกะพริบช้าๆ เป็นสีส้มขณะชาร์จ
  2. รอให้เอียร์บัดของคุณชาร์จจนเสร็จ
    ไฟแสดงสถานะจะดับลงเมื่อการชาร์จเสร็จสมบูรณ์
  • เมื่อแบตเตอรี่ของเอียร์บัดว่างเปล่า การชาร์จจนเต็มจะใช้เวลาประมาณ 40 นาที หากคุณต้องการใช้เอียร์บัดก่อนที่จะชาร์จจนเต็ม คุณสามารถชาร์จเป็นเวลา 10 นาทีเพื่อให้ใช้งานได้ 1.5 ชั่วโมง
  1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ของคุณที่มีพอร์ต USB-A เปิดอยู่ เช่น คอนโซล PS5 หรือ PC/Mac® ของคุณ 
  2. เชื่อมต่อเคสเข้ากับพอร์ต USB-A โดยใช้สาย USB ที่ให้มา
    ไฟแสดงสถานะบนเคสจะกะพริบช้าๆ เป็นสีส้มขณะชาร์จ
  3. รอให้เคสของคุณชาร์จจนเสร็จ
    ไฟแสดงสถานะจะดับลงเมื่อการชาร์จเสร็จสมบูรณ์ 
  • เมื่อแบตเตอรี่ของเคสสำหรับชาร์จว่างเปล่า การชาร์จจนเต็มจะใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง 
  • หากคุณต้องการชาร์จเคสขณะที่คอนโซลอยู่ในโหมดพัก คุณต้องเปิดใช้งานคุณสมบัตินี้ 

ไฟแสดงสถานะจะกะพริบในลักษณะต่อไปนี้เพื่อระบุระดับแบตเตอรี่ของเอียร์บัดและเคสของคุณ: 

แก้ไขปัญหา

การอัพเดทสำหรับหูฟังเอียร์บัดไร้สาย PULSE Explore และอะแดปเตอร์ USB จะเพิ่มเข้ามาเมื่อคุณอัพเดทซอฟต์แวร์ระบบคอนโซล PS5 ตรวจสอบว่าคุณอัพเดทหูฟังเอียร์บัดและอะแดปเตอร์เป็นเวอร์ชันล่าสุดแล้ว เมื่อมีการอัพเดทใหม่ให้อัพเดทได้ ให้ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ

คุณยังสามารถตรวจสอบและอัพเดทซอฟต์แวร์อุปกรณ์ได้ด้วยตนเอง

กลับไปที่หมวดหมู่
อะแดปเตอร์ USB PS Link
ย้อนกลับ

อะแดปเตอร์ USB PS Link

ชื่อส่วนประกอบ

A) ตัวเชื่อมต่อ USB Type-A

B) ปุ่ม PlayStation Link

C) ไฟแสดงสถานะ

เชื่อมต่อ

คุณสามารถใช้อะแดปเตอร์ USB PS Link ตัวที่สองเพื่อตั้งค่าการเชื่อมต่อ PS Link อื่นกับอุปกรณ์เสียง USB โดยไม่ต้องถอดปลั๊กอะแดปเตอร์ USB ตัวแรก

อะแดปเตอร์ USB ใหม่ไม่ได้จับคู่กับอุปกรณ์ของคุณตั้งแต่แกะออกมากล่อง ดังนั้นคุณต้องทำการจับคู่อะแดปเตอร์เหล่านี้ก่อน

เมื่อเอียร์บัด PULSE Explore จับคู่และเชื่อมต่อกับอะแดปเตอร์ USB PlayStation Link ของคุณ คุณจะสามารถสลับการเชื่อมต่อ PS Link ได้อย่างง่ายดาย

รีเซ็ตอะแดปเตอร์ USB PlayStation Link™ หากคุณต้องการล้างการเชื่อมต่อ PS Link ทั้งหมด

คุณสามารถรีเซ็ตอะแดปเตอร์ USB จากพอร์ตชาร์จ USB Type-A ใดก็ได้

  1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ของคุณที่มีพอร์ต USB-A เปิดอยู่ เช่น คอนโซล PlayStation®5 หรือ PC/Mac ของคุณ
  2. เสียบอะแดปเตอร์ USB เข้ากับพอร์ต USB-A บนอุปกรณ์ของคุณ
  3. กดปุ่ม PS Link บนอะแดปเตอร์ USB ค้างไว้เป็นเวลา 30 วินาที
  4. ดูว่าอะแดปเตอร์ของคุณรีเซ็ตสำเร็จหรือไม่โดยการตรวจสอบว่าอุปกรณ์ PS Link ที่จับคู่ไว้ก่อนหน้านี้เชื่อมต่อกับอะแดปเตอร์ของคุณโดยอัตโนมัติหรือไม่
    หากอุปกรณ์ไม่ได้เชื่อมต่อโดยอัตโนมัติ แสดงว่าการรีเซ็ตสำเร็จ
    หากอุปกรณ์เชื่อมต่อโดยอัตโนมัติ แสดงว่าการรีเซ็ตไม่สำเร็จ 
  • ใช้ตัวจับเวลาเพื่อให้แน่ใจว่าคุณกดปุ่มค้างไว้เป็นเวลาครบ 30 วินาทีเพื่อรีเซ็ตอะแดปเตอร์ของคุณ

ดูวิธีปรับการตั้งค่าอุปกรณ์ PlayStation Link™ ต่อไปนี้บนคอนโซล PlayStation®5: 

  • ชุดหูฟังไร้สาย PULSE Elite™ 

  • หูฟังเอียร์บัดไร้สาย PULSE Explore™

แก้ไขปัญหา

  • หากคุณใช้ไดรฟ์ที่จัดเก็บเสริมแบบ USB กับคอนโซล PlayStation®5 ให้ถอดไดรฟ์อย่างปลอดภัยและดูว่าสามารถแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อได้หรือไม่ เป็นที่ทราบกันว่าอุปกรณ์ USB 3.0 ทำให้เกิดสัญญาณรบกวน ในย่านความถี่ 2.4 GHz
  • หากมีอุปกรณ์ไร้สายอื่นๆ ที่ทำงานในย่านความถี่ 2.4 GHz อยู่ใกล้เคียงกับอะแดปเตอร์ USB PS Link ของคุณ ให้นำอุปกรณ์เหล่านั้นออกจากบริเวณใกล้เคียงและปิดอุปกรณ์เพื่อดูว่าสามารถแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อได้หรือไม่ อุปกรณ์ตัวอย่าง ได้แก่
    • อุปกรณ์สำหรับบ้านอัจฉริยะ (เต้ารับไฟฟ้า ระบบไฟให้แสงสว่าง เทอร์มอสแตต ฯลฯ)
    • ลำโพงไร้สาย (Sound Bar, ลำโพงอัจฉริยะ, ฯลฯ)
    • เราเตอร์ไร้สาย
  • ลองใช้สายพ่วงต่อความยาว USB (จำหน่ายแยกต่างหาก) เพื่อเว้นระยะห่างระหว่างอะแดปเตอร์ USB และแหล่งสัญญาณรบกวนที่เป็นไปได้
  • หากคุณใช้ฮับ USB 3.0 กับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อความเร็วสูงเพิ่มเติม (หน้าจอ ฮาร์ดไดรฟ์ภายนอก ฯลฯ) ให้ถอดอุปกรณ์อย่างปลอดภัยและดูว่าสามารถแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อได้หรือไม่  เป็นที่ทราบกันว่าอุปกรณ์ USB 3.0 ทำให้เกิดสัญญาณรบกวน ในย่านความถี่ 2.4 GHz 
  • หากคอมพิวเตอร์ของคุณมีพอร์ต USB 3.0 ที่ใช้งานอยู่หลายพอร์ต ให้ถอดอุปกรณ์อย่างปลอดภัยและดูว่าสามารถแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อได้หรือไม่  
  • หากมีอุปกรณ์ไร้สายอื่นๆ ที่ทำงานในย่านความถี่ 2.4 GHz อยู่ใกล้กับอะแดปเตอร์ USB PS Link ของคุณ ให้นำอุปกรณ์เหล่านั้นออกและปิดอุปกรณ์เพื่อดูว่าสามารถแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อได้หรือไม่  อุปกรณ์ตัวอย่าง ได้แก่
    • อุปกรณ์สำหรับบ้านอัจฉริยะ (เต้ารับไฟฟ้า ระบบไฟให้แสงสว่าง เทอร์มอสแตต ฯลฯ)
    • ลำโพงไร้สาย (Sound Bar, ลำโพงอัจฉริยะ, ฯลฯ)
    • เราเตอร์ไร้สาย
  • ลองใช้สายพ่วงต่อความยาว USB (จำหน่ายแยกต่างหาก) เพื่อเว้นระยะห่างระหว่างอะแดปเตอร์ USB และแหล่งสัญญาณรบกวนที่เป็นไปได้

รีเซ็ตอะแดปเตอร์ USB PlayStation Link™ หากคุณต้องการล้างการเชื่อมต่อ PS Link ทั้งหมด

คุณสามารถรีเซ็ตอะแดปเตอร์ USB จากพอร์ตชาร์จ USB Type-A ใดก็ได้

  1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ของคุณที่มีพอร์ต USB-A เปิดอยู่ เช่น คอนโซล PlayStation®5 หรือ PC/Mac ของคุณ
  2. เสียบอะแดปเตอร์ USB เข้ากับพอร์ต USB-A บนอุปกรณ์ของคุณ
  3. กดปุ่ม PS Link บนอะแดปเตอร์ USB ค้างไว้เป็นเวลา 30 วินาที
  4. ดูว่าอะแดปเตอร์ของคุณรีเซ็ตสำเร็จหรือไม่โดยการตรวจสอบว่าอุปกรณ์ PS Link ที่จับคู่ไว้ก่อนหน้านี้เชื่อมต่อกับอะแดปเตอร์ของคุณโดยอัตโนมัติหรือไม่
    หากอุปกรณ์ไม่ได้เชื่อมต่อโดยอัตโนมัติ แสดงว่าการรีเซ็ตสำเร็จ
    หากอุปกรณ์เชื่อมต่อโดยอัตโนมัติ แสดงว่าการรีเซ็ตไม่สำเร็จ 
  • ใช้ตัวจับเวลาเพื่อให้แน่ใจว่าคุณกดปุ่มค้างไว้เป็นเวลาครบ 30 วินาทีเพื่อรีเซ็ตอะแดปเตอร์ของคุณ
กลับไปที่หมวดหมู่
อุปกรณ์เสริมอื่นๆ
ย้อนกลับ

อุปกรณ์เสริมอื่นๆ

กล้อง HD (คอนโซล PS5)

อยากเป็นส่วนหนึ่งขณะสตรีมการออกอากาศของคุณไหม ใช้กล้อง HD (ซีรีส์ CFI-ZEY) หรือ PlayStation Camera (ซีรีส์ CUH-ZEY) และให้คุณอยู่ในการสตรีมสด

  1. กดปุ่มครีเอทและเลือก ออกอากาศ
  2. เลือกบริการสตรีมมิ่งที่คุณอยากใช้สำหรับการออกอากาศ
  3. ป้อนข้อมูลการออกอากาศของคุณ หากคุณอยากใส่วิดีโอจากกล้องหรือเสียงจากแชทผ่านเสียง ให้เลือก ตัวเลือกการออกอากาศ และกำหนดการออกอากาศของคุณเอง
  4. เมื่อเรียบร้อยแล้ว ให้เลือก ถ่ายทอดสด และการออกอากาศของคุณจะเริ่มต้นขึ้น การ์ดสำหรับการออกอากาศจะปรากฏขึ้นในศูนย์ควบคุม
  1. เช็ดทำความสะอาดเลนส์กล้อง HD ของคุณด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์แห้งสะอาด ห้ามใช้น้ำหรือของเหลวสำหรับทำความสะอาดใดๆ
  2. ตรวจสอบว่าเลนส์แตกร้าวหรือเสียหายหรือไม่
  3. ลองขยับเข้ามาให้ใกล้กล้องมากขึ้น 
  4. ห้ามเคลื่อนย้ายกล้อง HD ของคุณหลังตั้งค่าเสร็จแล้ว 
  5. ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากล้อง HD ของคุณอยู่บนพื้นผิวที่มั่นคง การเคลื่อนย้ายกล้องระหว่างเกมเพลย์อาจส่งผลให้การติดตามล้มเหลวได้

PlayStation Camera

อะแดปเตอร์ PlayStation Camera เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับเชื่อมต่อ PlayStation®Camera* (มีจำหน่ายสำหรับคอนโซล PlayStation®4) เข้ากับคอนโซล PlayStation®5 อุปกรณ์นี้จะช่วยให้ใช้งาน PlayStation®VR ได้ขณะที่เล่นเกม PS4™ ที่รองรับบนคอนโซล PS5™ รวมถึงเกมที่ต้องใช้ PlayStation®Move หรือคอนโทรลเลอร์ PlayStation®VR Aim

*รุ่น CUH-ZEY1 หรือ CUH-ZEY2

โปรดทราบว่า: กล้อง HD รุ่นใหม่สำหรับ PS5 เข้ากันไม่ได้กับ PS VR คุณจะต้องใช้ PS Camera (สำหรับ PS4) กับอะแดปเตอร์ PlayStation Camera (ไม่จำเป็นต้องซื้อ) เพื่อใช้ PS VR บน PS5

  1. เชื่อมต่อสาย PS Camera เข้ากับพอร์ต AUX ที่ด้านหลังของ PS4 ของคุณ
  2. วาง PS Camera บนพื้นผิวเรียบและหันตรงมาทางที่คุณนั่งเล่น
  3. ปรับมุม PS Camera เพื่อให้แน่ใจว่ากล้องกำลังจับบริเวณที่ถูกต้อง

หากคุณกำลังตั้งค่า PS Camera สำหรับ PS VR จะมีขั้นตอนเพิ่มเติมเล็กน้อยในการกำหนดค่า ดูคู่มือการเริ่มใช้งานแบบย่อและวิดีโอ PS VR ฉบับเต็มสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม

PlayStation Move

คอนโทรลเลอร์ PS Move เข้ากันได้กับคอนโซล PS5™ และคอนโซล PS4™ คุณจำเป็นต้องจับคู่คอนโทรลเลอร์หากเป็นการใช้ครั้งแรก

  1. เปิดคอนโซล PS5 หรือคอนโซล PS4 ของคุณ แล้วตั้งค่า PlayStation®Camera
  2. เชื่อมต่อคอนโทรลเลอร์ PS Move เข้ากับคอนโซลของคุณโดยใช้สาย USB Mini Type-B ที่มีมาด้วย
  3. กดปุ่ม PS บนคอนโทรลเลอร์ PS Move
  • คุณสามารถใช้คอนโทรลเลอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวได้พร้อมกันสูงสุดสี่อัน หากต้องการใช้คอนโทรลเลอร์ PS Move ตั้งแต่สองอันขึ้นไป ให้จับคู่คอนโทรลเลอร์แต่ละอันแยกกัน
  • เมื่อคุณเล่นโดยใช้คอนโทรลเลอร์ PS Move ให้เลิกเชื่อมต่อสาย USB ก่อนใช้งานเสมอ

ตั้งค่าคอนโทรลเลอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว PS Move และค้นหาขั้นตอนการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอนโทรลเลอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว PS Move

รีโมตสื่อ

คุณจะต้องจับคู่รีโมตสื่อกับคอนโซล PS5™ ก่อนจึงจะสามารถใช้งานได้:

  1. ไปที่ การตั้งค่า > อุปกรณ์เสริม > รีโมตสื่อ > ตั้งค่ารีโมตสื่อ และทำตามคำแนะนำการจับคู่บนหน้าจอ 
  2. หากการจับคู่อัตโนมัติไม่ได้ผล ให้เลือก กำหนดค่าด้วยตนเอง และทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ

รีโมตสื่อช่วยให้คุณสามารถนำทางในคอนโซล PlayStation®5 ของคุณและเข้าถึงสื่อและแอปได้โดยไม่ต้องใช้คอนโทรลเลอร์ไร้สาย

คอนโทรลเลอร์ไร้สาย PlayStation Aim

คอนโทรลเลอร์ PS VR Aim เป็นอุปกรณ์ Bluetooth® คุณจำเป็นต้องจับคู่คอนโทรลเลอร์เมื่อคุณใช้เป็นครั้งแรก และเมื่อคุณใช้กับคอนโซล PS4™ เครื่องอื่น

เมื่อเปิดคอนโซล PS4 ให้เชื่อมต่อคอนโทรลเลอร์โดยใช้สาย Micro USB* แล้วกดปุ่ม 2 PS คอนโทรลเลอร์ของคุณจะจับคู่กับคอนโซลและเปิดใช้งาน หลังจากจับคู่คอนโทรลเลอร์เสร็จแล้ว คุณสามารถเลิกเชื่อมต่อสาย Micro USB และใช้คอนโทรลเลอร์ได้แบบไร้สาย 

*คอนโทรลเลอร์ PS VR Aim ไม่ได้ให้สาย Micro-USB มาด้วย ใช้สาย Micro-USB สำหรับคอนโทรลเลอร์ไร้สาย DUALSHOCK 4

แก้ไขปัญหาอินพุตแล็ก การจับคู่ หรือไฟกะพริบกับคอนโทรลเลอร์ PS VR Aim

กลับไปที่หมวดหมู่
ตัวเล่นระยะไกล PlayStation Portal
ย้อนกลับ

ตัวเล่นระยะไกล PlayStation Portal

คู่มือผู้ใช้

ต่อไปนี้คือข้อมูลพื้นฐานบางส่วนเกี่ยวกับอุปกรณ์เล่นระยะไกล PlayStation Portal™ ของคุณ

ขณะเล่นระยะไกล PS Portal จะให้คุณได้เพลิดเพลินกับคุณสมบัติสำคัญแบบเดียวกันกับคอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualSense™ ที่คุณใช้กับคอนโซล PlayStation®5 ของคุณ PS Portal ของคุณตอบสนองการเล่นเกมแบบเดียวกันกับคอนโทรลเลอร์ไร้สายของคุณ ปุ่มและฟังก์ชันบางอย่างสามารถใช้ได้เฉพาะขณะเล่นระยะไกลเท่านั้น

ด้านหน้า

ด้านบน

ด้านล่าง

ด้านหน้า

A) ปุ่มทิศทาง
เลือกรายการบนหน้าจอ

B) ปุ่มครีเอท
ขณะเล่นระยะไกล ปุ่มนี้จะทำหน้าที่แบบเดียวกันกับปุ่มครีเอทบทคอนโทรลเลอร์ของคุณ

C) ปุ่ม PS
หลังจากเปิด PS Portal ของคุณ ให้กดปุ่ม PS เพื่อปลดล็อกหน้าจอล็อก
คุณสามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้ขณะเล่นระยะไกล

กดหนึ่งครั้ง เข้าถึงศูนย์ควบคุมบนคอนโซล PS5 ของคุณ
กดค้างไว้ ไปยังหน้าหลักบนคอนโซล PS5 ของคุณ

D) หน้าจอ (หน้าจอสัมผัส) 
มีฟังก์ชันการสัมผัส
เหมือนกับหน้าจอบนคอนโทรลเลอร์ของคุณ คุณสามารถใช้ฟังก์ชันทัชแพดบน PS Portal ได้ขณะเล่นระยะไกล

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟังก์ชันทัชแพด ให้ไปที่ส่วน “การควบคุมการเล่นระยะไกล” > “ใช้ทัชแพด”

E) ปุ่มปิดเสียง
ปิดเสียงหรือเปิดเสียงไมค์ขณะเล่นระยะไกล
หากไมค์ใช้งานไม่ได้ขณะเล่นระยะไกล โปรดตรวจสอบว่าปุ่มนี้ไม่ได้ปิดเสียงอยู่ หรือไมค์บนชุดหูฟังหรือเอียร์บัดของคุณไม่ได้ปิดเสียงอยู่
คุณสามารถเปิด/ปิดไฟแสดงสถานะบนปุ่มปิดเสียงได้ใน การตั้งค่า

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม ให้ดูส่วน ”การตั้งค่า”

F) ปุ่มตัวเลือก
ขณะเล่นระยะไกล ปุ่มนี้จะทำหน้าที่แบบเดียวกันกับปุ่มตัวเลือกบนคอนโทรลเลอร์ของคุณ

G) ปุ่มแอ็กชัน

ปุ่มกากบาท
เลือกรายการที่ไฮไลต์
ปุ่มวงกลม ยกเลิกคำสั่ง
ปุ่มสามเหลี่ยม จัดเรียงรายการใหม่หรือดูข้อมูลที่เกี่ยวข้องขณะเล่นระยะไกล
ปุ่มสี่เหลี่ยม ใช้เป็นทางลัดสำหรับคำสั่งตามบริบท และเพื่อดูฟังก์ชันเพิ่มเติมสำหรับรายการเฉพาะขณะเล่นระยะไกล

H) แถบแสง
ขณะเล่นระยะไกล แถบแสงจะเปล่งแสงแบบเดียวกันกับแถบแสงของคอนโทรลเลอร์ของคุณ
คุณสามารถเปิด/ปิดไฟแสดงสถานะบนแถบแสงได้ใน การตั้งค่า 

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม ให้ดูส่วน “การตั้งค่า”

I) จอยสติ๊กอนาล็อกขวา/ปุ่ม R3
กดจอยสติ๊กเพื่อใช้เป็นปุ่ม R3

J) จอยสติ๊กอนาล็อกซ้าย/ปุ่ม L3
กดจอยสติ๊กเพื่อใช้เป็นปุ่ม L3

ด้านบน

A) ลำโพงขวา/ลำโพงซ้าย

B) ปุ่ม L1/ปุ่ม L2

C) ปุ่มเปิด/ปิด

กดหนึ่งครั้ง เปิดหรือกำหนดให้ PS Portal ของคุณอยู่ในโหมดพัก
กดค้างไว้ เปิด ปิด หรือรีสตาร์ท PS Portal ของคุณ

D) ปุ่ม PlayStation Link™
ใช้ขณะจับคู่และเชื่อมต่ออีกครั้งกับชุดหูฟังหรือหูฟังเอียร์บัดที่รองรับ PlayStation Link

E) ปุ่ม +/- ความดังเสียง

F) ปุ่ม R1/ปุ่ม R2

ด้านล่าง

A) ไมโครโฟน
ใช้ไมค์ในตัวสำหรับการแชทผ่านเสียง 

B) ช่องต่อชุดหูฟัง
เชื่อมต่ออุปกรณ์เสียงที่เข้ากันได้กับช่องต่อเสียงอินพุต 3.5 มม.

C) พอร์ต USB
ใช้สาย USB ที่ให้มาด้วยเพื่อ PS Portal ของคุณ

PS Portal ของคุณมีหน้าจอและเมนูต่อไปนี้

หน้าจอหลัก

เมนูด่วน

หน้าจอหลัก

หน้าจอที่ปรากฏเมื่อคุณเปิด PS Portal แล้วปลดล็อกหน้าจอล็อกคือหน้าจอหลัก

  • คุณสามารถปลดล็อกหน้าจอล็อกได้ด้วยการกดปุ่ม PS

A) สถานะการเชื่อมต่อ
แสดงสถานะการเชื่อมต่อ

B) เมนูด่วน
แตะเพื่อแสดงเมนูด่วน

C) แถบสถานะ
แสดงสถานะการเชื่อมต่อ Wi-Fi ระดับแบตเตอรี่ และเวลา

D) Portal
แตะเพื่อเชื่อมต่อกับคอนโซล PS5 ของคุณและเริ่มเล่นระยะไกล 

สำหรับวิธีเตรียมและออกจากการเล่นระยะไกล ให้ดูส่วน “การเล่นระยะไกล”

E) คำแนะนำปุ่ม
แสดงคำใบ้สำหรับการใช้งานปุ่มและคีย์ต่างๆ 

เมนูด่วน

ขณะเล่นระยะไกล ปัดไปทางซ้ายจากมุมขวาบนของหน้าจอเพื่อแสดงเมนูด่วน

การแตะไอคอนเมนูด่วนจากแถบสถานะจะแสดงเมนูด่วนด้วยเช่นกัน

A) การเชื่อมต่อคอนโซล PS5
เลือกตัวเลือกนี้เพื่อออกจากการเล่นระยะไกลหรือเชื่อมต่อกับคอนโซล PS5 เครื่องอื่น

B) การเชื่อมต่อ PS Link
แสดงอุปกรณ์เสียงที่เชื่อมต่อกับ PlayStation Link เลือกตัวเลือกนี้เพื่อตรวจสอบระดับแบตเตอรี่

C) ความสว่างหน้าจอ
ปรับความสว่างหน้าจอ

D) โหมดเครื่องบิน
เปิด/ปิดฟังก์ชันไร้สายของ Wi-Fi และ PlayStation Link

E) การตั้งค่า
แสดงการตั้งค่าสำหรับ PS Portal ของคุณ 

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม ให้ดูส่วน “การตั้งค่า”

ตั้งค่าคอนโซล PS5 ของคุณ

ก่อนเริ่มใช้งานการเล่นระยะไกล ให้เปิดคอนโซล PS5 หรือกำหนดให้เครื่องเข้าสู่โหมดพัก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้กำหนดการตั้งค่าต่อไปนี้บนคอนโซล PS5 ของคุณ ระบบจะบันทึกการตั้งค่าเหล่านี้ไว้จนกว่าคุณจะเปลี่ยนการตั้งค่าดังกล่าว

  • เชื่อมต่อคอนโซล PS5 ของคุณกับอินเทอร์เน็ต
  • ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีเดียวกับที่คุณใช้เพื่อลงชื่อเข้าใช้บน PS Portal
  • อัพเดทคอนโซล PS5 ของคุณเป็นซอฟต์แวร์ระบบเวอร์ชันล่าสุด
  • จากหน้าจอหลักของคอนโซล PS5 ให้เลือก การตั้งค่า > ระบบ > การเล่นระยะไกล จากนั้น เปิดใช้การเล่นระยะไกล
  • หากต้องการเริ่มใช้งานการเล่นระยะไกลขณะที่คอนโซล PS5 ของคุณอยู่ในโหมดพัก ให้เลือก การตั้งค่า > ระบบ > การประหยัดพลังงาน > คุณสมบัติที่พร้อมใช้งานในโหมดพัก จากนั้น เปิดใช้งาน คงการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตไว้ และ เปิดใช้งานการเปิดเครื่อง PS5 จากเครือข่าย

หากการเชื่อมต่อการเล่นระยะไกลของคุณไม่เสถียร โปรดดูคำแนะนำด้านล่าง

เริ่มใช้งานการเล่นระยะไกล

ในหน้าจอหลักของ PS Portal ให้แตะ Portal หรือกดปุ่มกากบาท PS Portal ของคุณจะเชื่อมต่อกับคอนโซล PS5 ที่คุณใช้ก่อนหน้านี้ จากนั้นการเล่นระยะไกลจะเริ่มใช้งาน

  • PS Portal ของคุณจะไม่สามารถค้นหาและเชื่อมต่อกับคอนโซล PS5 ของคุณได้หากคุณลงชื่อเข้าใช้ครั้งล่าสุดผ่านมาแล้วสักระยะหนึ่ง ก่อนที่จะลองเชื่อมต่อระยะไกลจากนอกบ้าน ให้ตรวจสอบว่า PS Portal ของคุณเชื่อมต่ออย่างถูกต้องขณะที่คุณอยู่ใกล้กับคอนโซล PS5 ของคุณ

ออกจากการเล่นระยะไกล

ขณะเล่นระยะไกล ให้เปิดเมนูด่วนและเลือก เลิกเชื่อมต่อ

หากต้องการกำหนดให้ PS5 อยู่ในโหมดพักเมื่อออกจากการเล่นระยะไกล ให้เปิด กำหนดให้ PS5 ที่เชื่อมต่ออยู่ในโหมดพัก และเลือก เลิกเชื่อมต่อ บน PS Portal ของคุณ

สำหรับเมนูด่วน ให้ดูส่วน “หน้าจอมีอะไร” > “เมนูด่วน”

สลับไปใช้คอนโซล PS5 เครื่องอื่น

หากต้องการใช้คอนโซล PS5 เครื่องอื่นสำหรับการเล่นระยะไกล ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ หากคุณกำลังใช้การเล่นระยะไกลอยู่ คุณจะต้องออกจากการเล่นระยะไกลก่อน

  1. จากหน้าจอหลัก ให้เปิดเมนูด่วน จากนั้นเลือกไอคอน PS5
    ชื่อของคอนโซล PS5 ที่คุณใช้ครั้งล่าสุดจะแสดงอยู่ใต้ไอคอน
  2. เลือกคอนโซล PS5 ที่คุณต้องการใช้สำหรับการเล่นระยะไกล
    หากไม่เห็นคอนโซลที่ต้องการ อาจเป็นเพราะคอนโซล PS5 ของคุณยังไม่ได้ตั้งค่า สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูคำแนะนำด้านล่าง

ใช้ทัชแพด

ในระหว่างการเล่นเกม ให้แตะหน้าจอและพื้นที่ทัชแพดที่ปรากฏทางด้านซ้ายและขวาของหน้าจอ ภายในพื้นที่เหล่านี้ คุณสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ เช่น การแตะและปัดหน้าจอ

หากต้องการใช้ทัชแพดเป็นปุ่ม ให้แตะสองครั้งภายในพื้นที่ทัชแพดด้านใดด้านหนึ่ง

  • คุณสามารถใช้ฟังก์ชันทัชแพดได้แม้ว่าพื้นที่ทัชแพดจะไม่ได้แสดงบนหน้าจอก็ตาม

แสดงเมนูด่วน

ปัดไปทางซ้ายจากมุมขวาบนของหน้าจอเพื่อเปิดเมนูด่วน

สำหรับเมนูด่วน ให้ดูส่วน “หน้าจอมีอะไร” > “เมนูด่วน”

  • การแตะไอคอนเมนูด่วนจากแถบสถานะจะแสดงเมนูด่วนด้วยเช่นกัน

แสดงแถบสถานะ

แตะที่ใดก็ได้บนหน้าจอเพื่อแสดงแถบสถานะ  

สำหรับแถบสถานะ ให้ดูส่วน “หน้าจอมีอะไร” > “แถบสถานะ”

ด้วย PS Portal ของคุณ คุณสามารถใช้ชุดหูฟังหรือเอียร์บัดใดก็ได้ที่รองรับ PlayStation Link หรือเข้ากันได้กับช่องต่อเสียงอินพุต 3.5 มม.

ใช้อุปกรณ์เสียงไร้สาย

ใช้อุปกรณ์เสียงแบบใช้สาย

ใช้อุปกรณ์เสียงไร้สาย

คุณสามารถใช้ PlayStation Link กับหูฟังเอียร์บัดไร้สาย PULSE Explore™ และชุดหูฟังไร้สาย PULSE Elite™ ได้

อุปกรณ์เสียงที่รองรับ PS Link สามารถสลับระหว่างเสียงของ PS Portal และคอนโซล PS5 ได้อย่างรวดเร็ว

สำหรับวิธีเชื่อมต่ออุปกรณ์เสียงที่รองรับ PS Link โปรดดูคำแนะนำด้านล่าง

ใช้อุปกรณ์เสียงแบบใช้สาย

คุณสามารถใช้ชุดหูฟังหรือหูฟังเอียร์บัดแบบใช้สายที่เข้ากันได้กับช่องต่อเสียงอินพุต 3.5 มม. 

เชื่อมต่อหูฟังกับช่องต่อชุดหูฟังที่ด้านล่างของ PS Portal

หากต้องการดูและกำหนดการตั้งค่าสำหรับ PS Portal ของคุณ ให้เลือก การตั้งค่า จากเมนูด่วน คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าต่อไปนี้

สำหรับวิธีการแสดงเมนูด่วน ให้ดูส่วน “หน้าจอมีอะไร”

เครือข่าย

เปลี่ยนเครือข่าย Wi-Fi ที่คุณเชื่อมต่ออยู่ และตรวจสอบสถานะการเชื่อมต่อ

ระบบ

อัพเดทซอฟต์แวร์ระบบและรีเซ็ต PS Portal ของคุณ คุณยังสามารถกำหนดการตั้งค่าภาษา วันที่และเวลา และการประหยัดพลังงานของอุปกรณ์ได้

การแสดงผลและความสว่าง

ปรับความสว่างของหน้าจอ เปิด/ปิดแถบแสงและไฟแสดงสถานะบนปุ่มปิดเสียง

คุณยังสามารถปรับความสว่างของหน้าจอได้จากเมนูด่วน

คอนโทรลเลอร์

เปลี่ยนความแรงในการสั่นและความแรงของเอฟเฟกต์ทริกเกอร์

ลงชื่อออก

คุณสามารถลงชื่อออกจากบัญชีสำหรับ PlayStation™Network ได้จากที่นี่

เกี่ยวกับคู่มือผู้ใช้นี้

  • คู่มือผู้ใช้นี้จะแนะนำฟังก์ชันหลักและการตั้งค่า PS Portal ของคุณ รวมไปถึงเคล็ดลับสำหรับการใช้งานอย่างมืออาชีพ โปรดอ้างอิงคู่มือการใช้งานที่ให้มากับ PS Portal ของคุณควบคู่กับคู่มือผู้ใช้นี้
  • ข้อมูลเกี่ยวกับฟังก์ชันของระบบและภาพที่พิมพ์ในคู่มือผู้ใช้นี้อาจแตกต่างจาก PS Portal หรือคอนโซล PS5 ของคุณ โดยขึ้นอยู่กับเวอร์ชันของซอฟต์แวร์ที่ใช้ นอกจากนั้น ภาพประกอบและภาพหน้าจออาจแตกต่างจากผลิตภัณฑ์จริง

ซอฟต์แวร์ระบบ

อัพเดท PS Portal และคอนโซล PS5 ของคุณเป็นซอฟต์แวร์ระบบเวอร์ชันล่าสุดเสมอ เมื่ออัพเดทแล้ว คุณจะเพลิดเพลินกับคุณสมบัติเพิ่มเติม การใช้งานที่ปรับปรุงใหม่ และการรักษาความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น

บริการหลังการขาย

ตรวจสอบว่าคุณได้ลงชื่อออกจาก PlayStation Network ก่อนส่ง PS Portal ให้กับศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตเพื่อซ่อมแซม การทำเช่นนี้ช่วยป้องกันการเข้าถึงบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต หากต้องการลงชื่อออก ให้ไปที่เมนูด่วนและเลือก การตั้งค่า  > ลงชื่อออก

ประเภทของบริการหลังการขายที่มีให้บริการแตกต่างกันไปตามประเทศหรือภูมิภาค

ถ่ายโอน/คืน/ทิ้ง

ตรวจสอบว่าคุณได้ยุติการใช้งานและรีเซ็ต PS Portal ก่อนที่คุณจะถ่ายโอนสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ ทิ้ง หรือคืน (ในกรณีที่ได้รับอนุญาต)

ประกาศทรัพย์สินทางปัญญา

สำหรับเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนหรือเครื่องหมายการค้าของ Sony Interactive Entertainment Inc. และ Sony Group Corporation โปรดดูที่ลิงก์ด้านล่าง

แบบอักษรภาษาญี่ปุ่นทั้งหมดและบางส่วนของแบบอักษรละตินในอุปกรณ์นี้ใช้ตัวอักษรที่จัดทำโดย Fontworks Inc.
© 2024 Fontworks Inc., a Monotype Company

iWnn © OMRON SOFTWARE Co., Ltd. 2008-2013 สงวนลิขสิทธิ์

การแก้ไขปัญหา

  1. กดปุ่มเปิด/ปิดค้างไว้
  2. เลือก รีสตาร์ท

หากคุณไม่สามารถรีสตาร์ท PS Portal ให้ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ 

  1. กดปุ่มเปิด/ปิดบน PS Portal ของคุณค้างไว้
  2. รอให้ PS Portal ของคุณปิด จากนั้นรอ 30 วินาที
  3. กดปุ่มเปิด/ปิดบน PS Portal ของคุณค้างไว้
    ระบบจะรีบูต

หากยังพบปัญหาอยู่ ให้ลอง รีเซ็ตเต็มรูปแบบ

  1. จากคอนโซล PS5 ไปที่ การตั้งค่า > ระบบ > การเล่นระยะไกล จากนั้น เปิดใช้การเล่นระยะไกล
  2. จากคอนโซล PS5 ไปที่ การตั้งค่า > ระบบ > การประหยัดพลังงาน > คุณสมบัติที่พร้อมใช้งานในโหมดพัก เปิดใช้งาน คงการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตไว้ และ เปิดใช้งานการเปิดเครื่อง PS5 จากเครือข่าย
  3. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคอนโซล PS5 ของคุณเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตและคุณลงชื่อเข้าใช้ในบัญชีเดียวกัน

หาก PS Portal ของคุณขัดข้องหรือรีสตาร์ทโดยไม่คาดคิดขณะชาร์จ ให้ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:

  1. ถอดสายชาร์จออกจาก PS Portal ของคุณ
  2. เมื่อจอแสดงผล PS Portal ดับลง ให้กดปุ่มเปิด/ปิดค้างไว้ 10 ถึง 15 วินาทีจนกว่าตัวเครื่องจะเปิดและบูตเข้าสู่หน้าจอล็อกหรือหน้าจอการตั้งค่าในครั้งแรกหน้าจอใดหน้าจอหนึ่ง 
  3. กดปุ่มเปิด/ปิดค้างไว้ 2 วินาทีจนกว่าเมนูตัวเลือกพลังงานจะปรากฏขึ้น แล้วเลือก "ปิดเครื่อง"
  4. หลังจากปิดเครื่อง PS Portal แล้ว ให้เสียบสายชาร์จเข้ากับตัวเครื่องเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ต่อ
  • หาก PS Portal ของคุณประสบปัญหานี้ซ้ำๆ ให้ลองปิดเครื่องก่อนที่จะต่อสายชาร์จ (ขั้นตอนที่ 3 และ 4)
  • เราวางแผนที่จะแก้ไขปัญหานี้โดยเร็วด้วยการอัพเดทซอฟต์แวร์ระบบในครั้งถัดไป

ซอฟต์แวร์ระบบ

  1. จากมุมขวาบนของหน้าจอ ให้ปัดไปทางซ้ายเพื่อแสดงเมนูด่วน 
  2. ไปที่ การตั้งค่า > ระบบ > ซอฟต์แวร์ระบบ 
  3. เลือก อัพเดทซอฟต์แวร์ระบบ
กลับไปที่หมวดหมู่
คู่มือและการรับประกัน
ย้อนกลับ

คู่มือและการรับประกัน

คู่มือและการรับประกัน

ค้นหาคู่มือสำหรับคอนโซลหรืออุปกรณ์ของคุณ

ค้นหาคู่มือการรับประกันสำหรับคอนโซลและอุปกรณ์ของคุณ

คู่มือผู้ใช้ออนไลน์

หากต้องการดูคู่มือผู้ใช้สำหรับคอนโซล PlayStation®5 ของคุณ ให้ไปที่หน้าจอหลักบนคอนโซล PS5 และเลือก

การตั้งค่า > คู่มือผู้ใช้ สุขภาพและความปลอดภัย และข้อมูลอื่นๆ > คู่มือผู้ใช้

ดูคู่มือผู้ใช้คอนโซล PlayStation®4 ทางออนไลน์

ดูคู่มือผู้ใช้คอนโซล PlayStation®3 ทางออนไลน์